ข้อดีและข้อเสียของคอนกรีตพิมพ์ลาย
ข้อดี
ข้อเสีย
เรามาเปรียบเทียข้อดีข้อเสียก่อนตัดสินใจทำ คอนกรีตพิมพ์
ข้อดี
ข้อเสีย
วอลเปเปอร์ติดผนัง เป็นทางเลือกหนึ่งในการตกแต่งบ้านที่สามารถเปลี่ยนลุคเพิ่มสไตล์ให้ห้องได้อย่างทันตา ด้วยเหตุผลนี้หลายบ้าน จึงสนใจที่จะติดวอลเปเปอร์ให้บ้านกันอยู่ไม่น้อย หากอยากรู้ว่าติดวอลเปเปอร์เองนั้น ติดยังไง ใช้ขนาดไหน ราคาเท่าไร มีทริกในการติดวอลเปเปอร์ผนังยังไงให้ออกมาสวยดูดี วันนี้เรามีคำตอบมาฝากกันครับ
1.วางแผนงานให้ดี
เริ่มจากวัดขนาดพื้นที่ผนังที่ต้องการจะติดวอลเปเปอร์ โดยใช้ ความกว้าง * ความสูง จากนั้นนำผลลัพธ์ที่ได้ไปเทียบกับขนาดของวอลเปเปอร์ เช่น ความกว้างของห้อง 4 เมตร ความสูงของห้อง 3 เมตร = 12 ตารางเมตร หากใช้วอลเปเปอร์หน้าแคบ หรือขนาดความกว้าง 0.53 เซนติเมตร ยาว 10 เมตร เป็นขนาดที่ใช้กันทั่วไป ก็จะใช้ประมาณ 3 ม้วน (1ม้วนติดได้ประมาณ 5 ตารางเมตร ) หากใช้วอลเปเปอร์หน้ากว้าง ขนาด 1.06 ความยาว 15.6 เมตร จะใช้ประมาณ 1 ม้วน ส่วนราคาของวอลเปเปอร์ติดผนังนั้นมีราคาตั้งแต่หลักสิบไปจนถึงหลักร้อย ขึ้นอยู่กับลวดลายและวัสดุที่นำมาใช้ เช่น ไวนิล กระดาษ และโฟม
2.เลือกลายที่เหมาะสมกับสไตล์ของบ้าน
การติดวอลเปเปอร์ผนังให้สวยได้นั้น ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมระหว่างวายของวอลเปเปอร์กับสไตล์ของบ้าน หากบ้านของคุณเป็นสไตล์วินเทจ หรือสไตล์ย้แนยุคนิดๆ ก็เลือกลายวอลเปเปอร์ที่ออกแนววินเทจให้เหมาะสมกับบ้าน เช่น ลายดอกไม้หวานๆ ลายฉลุ เป็นต้น หรือถ้าสร้างบ้านแนวสมัยใหม่ ก็ควรเลือกลายวอลเปเปอร์เก๋ๆสีสันสดใส เช่น ลายกราฟิก ลายทาง เป็นต้น
3.หลากห้องต่างสไตล์ก็ไม่ผิด
สำหรับคนที่ยังรักพี่เสียดายน้องลายนั้นก็ดูดี ลายนี้ก็โดนใจ ไม่รู้จะเลือกวอลเปเปอร์แบบไหนดีก็ไม่ต้องคิดให้ปวดหัว เพราะไม่จำเป็นต้องเลือกวอลเปเปอร์ติดห้องลายเดียวกันหมกทั้งบ้านให้น่าเบื่อ แค่ระวังไม่ให้ลายวอลเปเปอร์โดดเด้งไม่เข้ากันกับสไตล์เฟอร์นิเจอร์ หรือลายของหน้าต่างในแต่ละห้องก็พอ
4.เนรมิตรเรียบหรูคลาสสิคด้วยสีพื้น
หากไม่ชบความวุ่นวาย อบากให้บ้านดูเรียบหรูคลาสสิค แนะนำให้เลือกติดวอลเปเปอร์สีพื้นอ่อนๆ แล้วค่อยเพิ่มลูกเล่นด้วยการติดภาพวาดสีน้ำมันบานใหญ่ๆ สักภาพ หรือถายภาพสวยๆสักบานมาติดไว้ เท่านี้ก็จะได้บ้านลุคคลาสสิคแบบหรูๆแล้ว อีกทั้งยังทำให้ของตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ดูสวยงามขึ้นอีกต่างหาก
5.สร้างเอกลักษณ์ด้วยลวดลาย
สามารถเปลี่ยนบรรยากาศห้องให้ดูมีสีสันเตะตา ได้ด้วยวอลเปเปอร์ที่มีลวดลาย แต่วอลเปเปอร์ติดผนังแบบนี้ เหมาะที่จะใช้ตกแต่งกับห้องกินข้าว ห้องน้ำ และห้องแต่งตัว เพราะลายพร้อยๆ บนผืนวอลเปเปอร์ซึ่งช่วยสร้างเอกลักษณ์และลดความเวิ้งว้างภายในห้องได้เป็นอย่างดีเลย อีกทั้งยังทำให้ห้องดูโดดเด่นขึ้นด้วย
6.เพิ่มมติให้ห้องด้วยวอลเปเปอร์แบบนูน
ในส่วนห้องที่ต้องการให้ดูมีมิติ เช่น ห้องทำงาน หรือห้องนั่งเล่น ลองเลือกวอลเปเปอ์พื้นนูนหรือวอลเปเปอร์ 3D มาติดดูก็ได้ เพราะวอลเปเปอร์ชนิดพื้นนูน จะช่วยเพิ่มลวดลายให้พื้นผนังดูมีสไตล์แบบล้ำลึก โดดเด่นไม่แพ้ใคร อีกทั้งยังช่วยป้องกันเสียงได้ระดับหนึ่งด้วย
7.แปลกตาด้วยสไตล์การติด
การติดวอลเปเปอร์ผนัง ไม่จำเป็นต้องติดในแนวตั้งเสมอไป ลองแหวกแนวด้วยการพลิกแพลงติดวอลเปเปอร์ในแนวนอนดูบ้าง ก็ช่วยเพิ่มความสวยงามได้เหมือนกัน เช่น เลือกสีวอลเปเปอร์ผนังที่ตัดกันติดในห้องเดียวกัน ก็จะช่วยให้ห้องดูแปลกตา สวยไปอีกแบบ
8.ใช้ลวดลายปกปิดรอยตำหนิ
สำหรับบ้านที่มีปัญหาผนังเป็นรอยด่างดำ หรือมีพื้นผิวขรุขระไม่เรียบสวย การติดวอลเปเปอร์ลสยเดียวกันทั้งห้อง ก็จะช่วยพรางตาไม่ให้เห็นรอยตำหนิเหล่านี้ได้ง่าย แถมยังดูสวยแบบเนียนๆอีกด้วย
ซึ่งวิธีการติดตั้งวอลเปเปอร์เองนั้นก็ไม่ยาก เริ่มด้วยทำความสะอาดผนังกำจัดฝุ่นและคราบสกปรกออกซ่ะก่อน จากนั้นทากาวในตัวก็ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลย เสร็จแล้วนำวอลเปเปอร์ติดผนังจากบนลงล่าง ไล่อากาศออกให้เรียบร้อยก่อนติดแผ่นต่อไป หากมีลายกาวเลอะให้รีบเช็ดออก ไม่ควรทิ้งไว้จนคราบกาวแห้ง
9.เล่นกับแสงไฟเพิ่มความสว่าง
สำหรับห้องที่ไม่มีหน้าต่างหรือพื้นที่มุมอับ ค่อนข้างมืด ให้เลือกวอลเปเปอร์สีอ่อนๆ หรือสีเมทัลลิก เพราะช่วยสะท้อนแสง พร้อมทั้งทำให้ห้องดูสว่างและกว้างขึ้นได้มากกว่า แต่ทั้งนี้หากต้องการใช้วอลเปเปอร์สีเข้มก็สามารถทำได้ โดยจับคู่กับโทนสีสว่างหรือติดกระจกช่วยพรางตา
10.หมั่นดูแลรักษาความสะอาด
การดูแลความสะอาดก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน โดยใช้ผ้าหรือฟองน้ำชุบน้ำยาทำความสะอาดบริเวณที่มีคราบสกปรก โดยถูเบาๆ และทำซ้ำจนกว่าคราบจะหายไป หลีกเลี่ยงการใช้สารระเหย เช่น ทินเนอร์ ทำความสะอาดเพราะอาจจะทำให้ผิวสัมผัสของวอลเปเปอร์เสียหายได้ ทั้งนี้หากวอลเปเปอร์ฉีกขาดควรรีบแก้ไข เพราะหากปล่อยทิ้งไว้จนขอบแข็งจะทำให้ซ่อมแซมยาก